วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

สิ่งประดิษฐ์ที่แปลกที่สุด

เก็บมาฝาก....กระโปรงที่(เราคิดว่า)มันแปลกที่สุดในโลก
หลังจากที่อิชั้นหายตัวหน้าไปหลายวันจริงๆก็ไม่ได้ไปทำอะไร อยู่บ้านนี่แหละเพียงแต่เกิดอาการ"ตัน"เรื่องที่จะเขียนบล๊อกอ่ะดิ วันนี้หลังจากที่เรียนเสร็จหมดแล้วทั้งวัน อิชั้นก็ถึงได้มานั่งพิมพ์บล๊อกในหน้าของวันนี้นี่แหละ
ผ่านไปแล้วกับการเปิดเทอม1วัน เมื่อวานก็ไม่ได้เรียนอะไรเลย วันนี้วิชาที่เรียนบ้างแล้วก็คือไวยากรณ์อังกฤษ1 เพื่อนๆชาวoknationหรือเพื่อนๆที่แวะมาอ่านไม่ต้องตกใจว่าอิชั้นยังเรียนไวยากรณ์อังกฤษอยู่อีก แต่นั่นคือเป็นวิชาบังคับโทที่นศ.วิชาโทอังกฤษทุกคนต้องเรียนพูดถึงก็สนุกดี แต่บรรานากาศในห้องเรียนยังกะป่าช้า............(เลยว่ะ) เพราะว่าจากประสบการณ์ของอิชั้นที่เรียนภาษามาหลายภาษาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเกาหลี อิชั้นคิดว่าการเรียนภาษาเป็นสิ่งที่สนุกมากๆๆ ได้เรียนรู้ ได้ตอบได้ฟังจากอาจารย์ แต่มาวิชาไวยากรณ์-อังกฤษ1ที่เงียบยังกะป่าช้า มีแต่กลุ่มเพื่อนและอิชั้นเท่านั้นที่ได้แต่ถามตอบกับอาจารย์ แล้วที่เหลือนั่งในห้อง30กว่าคน เป็นอะไรล่ะ ยังกะว่าวิชานี้มีคนเรียน4-5คนแค่นั้น....ไม่เข้าใจเลยกันจริงๆว่าตอนเรียนมัธยมพวกเด็กปี1พวกนี้เรียนกันมายังไง ถึงไม่มีปากไม่เสียง มาเรียนนั่งเงียบ ไม่ถามไม่ตอบ (อ้อ ลืมบอกไปว่าอิชั้นต้องนักเรียนกับเด็กวิชาเอกอังกฤษปี1เพราะเด็กวิชาเอกต้องลงเรียนวิชาไวยากรณ์อังกฤษ1ก่อนและเด็กวิชาโทลงเรียนร่วมด้วย)
วันนี้ก็ได้ไปอ่านอะไรบางอย่างจากเว็บหนึ่งมาก็ต้องต๊กกะใจกับไอเดียของพี่ยุ่นเสียจริงๆ แหม ...ช่างคิดกันเหลือเกิน เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่า
ลูกเล่นเพิ่มความปลอดภัยในแดนปลาดิบ
นางสาวอายะสึกิ โอกะ หยิบ "กระโปรงเพิ่มความปลอดภัย" ที่เธอคิดค้นขึ้นออกมาอวดหลังจากที่สามารถขายกระโปรงแบบเดียวกันนี้ไปได้ในสนนราคาสูงถึงตัวละ 800 ดอลลาร์ (ราว 27,200 บาท) "ฉันขายกระโปรงแบบนี้ไปได้สัก 20 ตัวแล้วล่ะ" สาวญี่ปุ่นวัย 29 ปีรายนี้ เล่าให้ฟัง หากดูเผินๆกระโปรงนี้ก็เหมือนๆ กับกระโปรงยาวคลุมข้อเท้าทั่วๆ ไป แต่เจ้าของไอเดียลูกเล่นเพิ่มความปลอดภัยสาธิตให้ดูว่ากระโปรงนี้สามารถคลี่ออกมาเป็นผ้าผืนใหญ่และมีลวดลายเหมือนตู้ขายน้ำอัตโนมัติยังไงยังงั้น
หลังจากเธอกางผ้าผืนนั้นออกมาเต็มที่แล้วไปยืนข้างตู้ขายน้ำอัตโนมัติอื่นๆคนที่เดินผ่านไปผ่านมาดูเหมือนจะไม่ทันได้สังเกตว่ามีผู้หญิงปลอมตัวเป็นตู้ขายเครื่องดื่มอยู่ "ฉันคิดสร้างกระโปรงแบบนี้ขึ้นมาเพราะได้รับแรงบันดาลใจจากพวกนินจา ในสมัยก่อน นินจาจะหลบซ่อนในความมืดด้วยการใช้ผ้าดำคลุมตัวเอง อีกอย่างในปัจจุบัน ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่นก็มีเยอะแทบทุกหัวมุมถนน จึงน่าจะสามารถอาศัยเป็นฉากช่วยปลอมแปลงได้" นางสาวสึกิโอกะ เผย เธอยอมรับว่ายังไม่เคยได้ยินว่ากระโปรงแบบนี้สามารถป้องกันอาชญากรรมได้จริงๆมาก่อน แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่ากระโปรงแปลงโฉมนี้ยังไม่ได้วางขายอย่างแพร่หลายและญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูงนั่นเอง "ตอนนี้ ฉันก็ยังอยู่ในช่วงทดลองแนวคิดนี้อยู่เท่านั้นเพราะฉันรู้ว่าถ้าผู้ใช้มือสั่น กระโปรงนี้ก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลย" เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
กระนั้นก็ตามนางสาวสึกิโอกะ ยังคงมุ่งมั่นว่าจะพยายามพัฒนาแบบและแนวคิดนี้ต่อไปเพื่อหาลูกเล่นเพิ่มความปลอดภัยที่น่าจะวางขายในตลาดอย่างแพร่หลายได้ นายเคนจิ คาวากามิ ผู้ผลิตสิ่งประดิษฐ์แหวกแนวชื่อดังในญี่ปุ่น ระบุว่า ถึงอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยในญี่ปุ่นยังจะดูเหมือนเรื่องเด็กๆ ที่ไม่น่าจะใช้ได้ผลจริง แต่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อไป "ผมจะบอกให้ว่าไม่มีสิ่งประดิษฐ์ไหนที่ไม่มีประโยชน์หรอก การประดิษฐ์ของขึ้นมาสักชิ้นจะช่วยให้เรามองเห็นความเป็นไปได้ต่างๆ อย่างชัดเจนมากขึ้น" นายคาวากามิเองก็เป็นเจ้าของแนวคิดประดิษฐ์รองเท้าผ้าถูพื้นสำหรับแมวเพื่อให้แมวทำหน้าที่ถูบ้านไปในตัวระหว่างเดินเล่นเยื้องย่างอยู่ในบ้าน แทนที่จะก่อริ้วรอยขีดข่วนหรือรอยเปรอะเปื้อน นายทากูมิ ฮิราอิ ประธานสมาคมนักประดิษฐ์รายบุคคลแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น กล่าวเสริมว่า วัฒนธรรมแดนปลาดิบนั้นส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักคิดเป็นอย่างดี "ที่นี่ คนจะไม่หัวเราะเยาะเวลาเห็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้คนพยายามขายความคิดอะไรใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อย" เขาแสดงความคิดเห็น ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นหัวใสจำนวนไม่น้อยหันมาคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเพราะต่างหวาดหวั่นกับข่าวอาชญากรรมน่ากลัวๆ ที่ปรากฏอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ถึงแม้ว่าอัตราการเกิดอาชญากรรมในประเทศนี้จะน้อยกว่าในอเมริกาถึง7 เท่าตัว แต่ชาวญี่ปุ่นที่เคยคุ้นกับชีวิตปลอดอาชญากรรมอดวิตกไม่ได้ว่าสังคมนี้อาจจะไม่ได้ปลอดภัยสำหรับพวกเขาเหมือนอย่างที่เคยคิดกันอีกแล้ว นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยเริ่มซื้อโทรศัพท์มือถือติดตั้งระบบติดตามตำแหน่งผ่านดาวเทียมให้แก่ลูกหลานเพื่อคอยสอดส่องว่าเด็กๆเดินทางถึงบ้านหรือถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัยแล้วหรือยัง นอกจากนี้แล้วผู้หญิงบางคนยังเลือกซื้อที่ครอบแว่นตาสีเข้มจัดมาใช้เพื่อให้คนอื่นไม่รู้ว่าตาของพวกเธอกำลังจับจ้องมองไปทางไหน โดยอุปกรณ์นี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหาที่สาวๆ หลายคนต้องเผชิญกับบรรดาผู้ชายมือไวฉวยโอกาสจับต้องส่วนสัดบนร่างกายขณะที่อยู่บนรถไฟที่คนแออัดยัดเยียด หากไม่รู้ว่าพวกเธอจับจ้องทางไหนคนมือไวก็จะไม่อยากเสี่ยง นางคาโอรินากาโนะ นักประวัติศาสตร์ด้านแฟชั่น ไม่ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มความคุ้มครอง แต่เธอมีคำแนะนำดีๆ เรื่องการแต่งตัวมาเพิ่มความปลอดภัย "สังคมญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อเรื่องการแต่งกาย ดังนั้น ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีแต่งตัว คุณก็สามารถช่วยให้ตัวเองมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นได้" นางนากาโนะ ให้ความเห็น คำแนะนำดีๆจากเธอ คือ หากคุณเป็นนักเรียน ให้เลือกใส่เข็มขัดสีขาวประดับวัตถุแวววาวหรือกระจก พร้อมสวมถุงเท้าสั้นลวดลายฉูดฉาดแทนที่จะแต่งตัวเรียบร้อยตามระเบียบเป๊ะๆ "เวลาแต่งตัวซ่า คนอื่นก็จะคิดว่าคุณเป็นเด็กซ่า และไม่ค่อยอยากมาหาเรื่อง" นางนากาโนะ อธิบาย
เพื่อนๆล่ะคิดกันยังไง อิชั้นคิดว่ามันเป็นทั้งกระโปรง+ของเล่นไปในตัวเจ๋งที่สุดเลย...

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=1443141

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น